กลุ่มตระกูลภาษาออสโตรเอเชียติค(สาขามอญ-เขมร)
1. เขมรถิ่นไทย
การแต่งกาย การแต่งกายของผู้ชายมีทั้งนุ่งโสร่ง โจงกระเบน และกางเกงขาจกกบ สวมเสื้อคอกลมผ่าอก มีผ้าขาวม้า ซึ่งเรียกตามภาษาเขมรว่า “สไบ” คาดเอว สำหรับผ้านุ่งโจงกระเบนนั้นนิยมผ้าหางกระรอก ซึ่งชาวเขมรมีฝีมือในการทอผ้าไหมหางกระรอกมาก ผู้ชายนิยมตัดผมสั้น
ส่วนผู้หญิงจะนุ่มซิ่นไหมและฝ้าย เรียกว่า “ซัมป๊อด” มีหลายแบบหลายลาย เช่น โฮล อันลุยซึมอันปรม (พื้นแดงเข้ม มีขีดดำขาวตัดกัน) ซะมอ ละเบิก หมี่คั่น ผู้หญิงเขมร ถิ่นไทยจะใส่เสื้อแขนกระบอกคอกลมผ่าอกติดกระดุม พาดผ้าสไบ ในโอกาสสำคัญ ๆ สตรีนิยมปล่อยผมยาวไม่เกล้ามวย
2. กูย
การแต่งกาย แต่เดิมชาวกูยนิยมนุ่งโสร่งหางกระรอกหรือนุ่งโจงกระเบน คล้องผ้าสไบคาด “ถุงไถ้” ซึ่งทำด้วยผ้าขิดสำหรับใส่เครื่องรางเวลาเข้าป่าส่วนผู้หญิงชาว
กูย นิยมนุ่มผ้าซิ่นมีทั้งทอเป็นลายขิดคล้ายไทลาวหรือตีนซิ่นลายผ้ามัดหมี่คล้ายชาวเขมรถิ่นไทยสวมเสื้อคอกระเช้า หญิงสูงอายุมักใส่สร้อยคอลูกปัดที่ทำจากพลาสติกหรือเงินและมักใส่ดอกไม้หอมแทนต่างหู
1. เขมรถิ่นไทย
การแต่งกาย การแต่งกายของผู้ชายมีทั้งนุ่งโสร่ง โจงกระเบน และกางเกงขาจกกบ สวมเสื้อคอกลมผ่าอก มีผ้าขาวม้า ซึ่งเรียกตามภาษาเขมรว่า “สไบ” คาดเอว สำหรับผ้านุ่งโจงกระเบนนั้นนิยมผ้าหางกระรอก ซึ่งชาวเขมรมีฝีมือในการทอผ้าไหมหางกระรอกมาก ผู้ชายนิยมตัดผมสั้น
ส่วนผู้หญิงจะนุ่มซิ่นไหมและฝ้าย เรียกว่า “ซัมป๊อด” มีหลายแบบหลายลาย เช่น โฮล อันลุยซึมอันปรม (พื้นแดงเข้ม มีขีดดำขาวตัดกัน) ซะมอ ละเบิก หมี่คั่น ผู้หญิงเขมร ถิ่นไทยจะใส่เสื้อแขนกระบอกคอกลมผ่าอกติดกระดุม พาดผ้าสไบ ในโอกาสสำคัญ ๆ สตรีนิยมปล่อยผมยาวไม่เกล้ามวย
2. กูย
การแต่งกาย แต่เดิมชาวกูยนิยมนุ่งโสร่งหางกระรอกหรือนุ่งโจงกระเบน คล้องผ้าสไบคาด “ถุงไถ้” ซึ่งทำด้วยผ้าขิดสำหรับใส่เครื่องรางเวลาเข้าป่าส่วนผู้หญิงชาว
กูย นิยมนุ่มผ้าซิ่นมีทั้งทอเป็นลายขิดคล้ายไทลาวหรือตีนซิ่นลายผ้ามัดหมี่คล้ายชาวเขมรถิ่นไทยสวมเสื้อคอกระเช้า หญิงสูงอายุมักใส่สร้อยคอลูกปัดที่ทำจากพลาสติกหรือเงินและมักใส่ดอกไม้หอมแทนต่างหู
แหล่งที่มา
1.จาก “สังคมและวัฒนธรรมอีสาน” เอกสารประกอบนิทรรศการถาวร “อีสานนิทัศน์” 2549 หน้า 125-188
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น