9. ไทย้อ
ชาวไทย้อ จัดอยู่ในกลุ่มตระกูลภาษาไต-กะไดสาขาไต ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในตัวเมือง
จังหวัดสกลนครและนครพนม พูดคล้ายกับชาวพื้นเมือง (ชาวไท-อีสานทั่วไป) แต่บางคำออกเสียง
แปร่ง มีผิวสีเหลืองขาวมากกว่าผิวดำ แต่เดิมผู้ชายไว้ผมโหยง (ทรงผมมหาดไทย) ส่วนผู้หญิงไว้
ผมยาวเกล้าตรงกลางศรีษะ อาชีพหลักคือการทำนา ทำสวนไม้ผล ค้าขายบ้าง มีฝีมือในการเย็บ
10. กะเลิง
ชาวกะเลิงหรือข่าเลิง เป็นกลุ่มชาติพันธุ์ในกลุ่มตระกูลไต-กะได มีถิ่นฐานเดิมอยู่ที่แขวง
สุวรรณเขต แขวงคำม่วนประเทศลาว อพยพมาอยู่อีสานระยะเดียวกันกับชาวสกลนครกลุ่มอื่น ๆ ที่
มีความเชื่อในพิธีกรรมเกี่ยวกับผี การเลี้ยงผี ปัจจุบันชาวกะเลิงส่วนใหญ่ตั้งถิ่นฐานอยู่อำเภอกุด
บาก จังหวัดสกลนครและมีบางส่วนอยู่ในจังหวัดนครพนม มุกดาหารและใกล้เคียง
11. ไทพวน
ชาวพวนเป็นชาวเมืองเชียงของอพยพเข้ามาตั้งหลักแหล่งทั้งภาคกลางและภาคอีสานของ
ไทย เป็นกลุ่มที่มีรูปร่างหน้าตาหมดจด กิริยาละเมียดละไม ขยันทำงาน มีภาษาพูด วัฒนธรรม
และประเพณีเป็นของตนเอง ชาวไทพวนนับถือศาสนาพุทธ จึงมักจะสร้างวัดไว้ใกล้ชุมชน
นอกจากนี้ยงมีความเชื่อเกี่ยวกับผีผสมผสานในพิธีกรรม โดยเฉพาะประเพณีกำฟ้าที่จัดขึ้นในวัน
ขึ้น 3 ค่ำ เดือน 3 ของทุกปี ชาวพวนจะทำข้าวจี่ไปถวายพระที่วัดและมีข้อปฏิบัติคือจะไม่ด่าทอ
หรือทะเลาะวิวาทกัน ถ้าไม่ปฏิบัติจะถูกฟ้าดินลงโทษ
ชาวไทย้อ จัดอยู่ในกลุ่มตระกูลภาษาไต-กะไดสาขาไต ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในตัวเมือง
จังหวัดสกลนครและนครพนม พูดคล้ายกับชาวพื้นเมือง (ชาวไท-อีสานทั่วไป) แต่บางคำออกเสียง
แปร่ง มีผิวสีเหลืองขาวมากกว่าผิวดำ แต่เดิมผู้ชายไว้ผมโหยง (ทรงผมมหาดไทย) ส่วนผู้หญิงไว้
ผมยาวเกล้าตรงกลางศรีษะ อาชีพหลักคือการทำนา ทำสวนไม้ผล ค้าขายบ้าง มีฝีมือในการเย็บ
10. กะเลิง
ชาวกะเลิงหรือข่าเลิง เป็นกลุ่มชาติพันธุ์ในกลุ่มตระกูลไต-กะได มีถิ่นฐานเดิมอยู่ที่แขวง
สุวรรณเขต แขวงคำม่วนประเทศลาว อพยพมาอยู่อีสานระยะเดียวกันกับชาวสกลนครกลุ่มอื่น ๆ ที่
มีความเชื่อในพิธีกรรมเกี่ยวกับผี การเลี้ยงผี ปัจจุบันชาวกะเลิงส่วนใหญ่ตั้งถิ่นฐานอยู่อำเภอกุด
บาก จังหวัดสกลนครและมีบางส่วนอยู่ในจังหวัดนครพนม มุกดาหารและใกล้เคียง
11. ไทพวน
ชาวพวนเป็นชาวเมืองเชียงของอพยพเข้ามาตั้งหลักแหล่งทั้งภาคกลางและภาคอีสานของ
ไทย เป็นกลุ่มที่มีรูปร่างหน้าตาหมดจด กิริยาละเมียดละไม ขยันทำงาน มีภาษาพูด วัฒนธรรม
และประเพณีเป็นของตนเอง ชาวไทพวนนับถือศาสนาพุทธ จึงมักจะสร้างวัดไว้ใกล้ชุมชน
นอกจากนี้ยงมีความเชื่อเกี่ยวกับผีผสมผสานในพิธีกรรม โดยเฉพาะประเพณีกำฟ้าที่จัดขึ้นในวัน
ขึ้น 3 ค่ำ เดือน 3 ของทุกปี ชาวพวนจะทำข้าวจี่ไปถวายพระที่วัดและมีข้อปฏิบัติคือจะไม่ด่าทอ
หรือทะเลาะวิวาทกัน ถ้าไม่ปฏิบัติจะถูกฟ้าดินลงโทษ
แหล่งที่มา
1.จาก “สังคมและวัฒนธรรมอีสาน” เอกสารประกอบนิทรรศการถาวร “อีสานนิทัศน์” 2549 หน้า 125-188
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น