3. ที่พักอาศัยประเภทถาวร
ที่พักอาศัยประเภทถาวรจะมีโครงสร้างเป็นไม้จริง (เรือนเครื่องสับ) รูปทรงสี่เหลี่ยมไต้ถุนสูงหลังคาทรงจั่ว เสาเป็นเสากลมหรือเสาเหลี่ยม ฝาเป็นฝาไม้ไผ่สายลายคุปหรือฝาไม้กระดาน(ฝาแอ้มแป้น) ที่พักอาศัยประเภทถาวรนี้อาจจำแนกได้เป็น 3 ประเภท คือ
3.1 เรือนเกย หรือเรือนใหญ่ต่อเกยมีส่วนประกอบสำคัญคือ
3.1.1 เรือนใหญ่ เป็นเรือนขนาด 3 ช่วงเสาหันด้านข้างไปทางทิศตะวันออก ตะวันตก (ปลูกเรือนล่องตะวัน) ตีฝากั้นปิดทึบทั้ง 4 ด้าน ฝาเรือนทางด้านหลังเจาะช่องขนาดกว้าง 1 ศอกยาว 1 ศอก เพื่อให้ลมและแสงสว่างเข้าสู่เรือนเรียกว่า “ป่องเอี้ยม” เจาะประตู 2 หรือ 3 ประตูตามช่วงเสาด้านตรงข้ามแบ่งพื้นที่ใช้ประโยชน์ในตัวเรือนออกเป็น 3 ส่วน คือ
- ห้องเปิง ตั้งอยู่ริมด้านหัวเรือนของเรือนใหญ่เป็นส่วนที่วางหิ้งสักการะบูชาผีบรรพบุรุษ ผีเรือนและหิ้งพระ หรือบางครั้งอาจใช้เป็นห้องนอนของลูกชาย ห้องเปิดอาจเรียกชื่อว่าห้องผีหรือห้องพระก็ได้
- ห้องส้วม จะตั้งอยู่ริมด้านท้ายเรือนของเรือนใหญ่ ตรงข้ามกับห้องเปิดงใช้เป็นห้องนอนของลูกสาวหรือห้องนอนของลูกสายกับลูกเขยหลังแต่งงาน
- ห้องส้วม จะตั้งอยู่ริมด้านท้ายเรือนของเรือนใหญ่ ตรงข้ามกับห้องเปิดงใช้เป็นห้องนอนของลูกสาวหรือห้องนอนของลูกสายกับลูกเขยหลังแต่งงาน
3.1.2 เกย หรือบ้านโล่ง เป็นชานที่มีหลังคาคลุม มีลักษณะเป็นการต่อชานออกมาทางด้านหน้าของเรือน มีหลังคาคลุมพื้นเป็นไม้กระดานด้านข้าง อาจเปิดโล่งหรือกั้นฝาและพื้นเกยจะมีระดับต่ำกวา่ พื้นเรือนใหญ ่ ใช้ประโยชน์เป็นพื้นที่สำหรับกิจกรรมตา่ ง ๆ ในครอบครัว เช่น รับประทานอาหาร รับรองแขกพักผ่อน อิริยาบททำบุญเลี้ยงพระ ทำพิธีสู่ขวัญ ฯลฯ
3.1.3 ชานแดด เป็นการต่อชานออกมาจากทางด้านหน้าเปิดโล่งทั้งด้านบนและด้านข้าง พื้นชานแดดจะลดระดับลงมาจากเกยใช้เป็นสถานที่พักผ่อนยามเย็น เป็นที่รับประทานอาหาร หรือวางผลิตผลทางการเกษตร พื้นที่ส่วนหนึ่งมักสร้างเป็นร้านเพื่อตั้งโอ่งน้ำสำหรับดื่มเรียกว่า “ร้านแอ่งน้ำ”
3.1.4 เรือนไฟ หรือเรือนครัวเป็นส่วนที่ประกอบอาหารเป็นตัวเรือนขนาด 2 ช่วงเสาต่ออกมาจากชานแดดด้านข้างทิศท้ายเรือน ฝาเรือนไฟจะนิยมทำเป็นฝา โปร่งเพื่อระบายอากาศเรือนไฟอาจมีชานมนเป็นที่ตั้งโอ่งน้ำสำหรับประกอบอาหารและล้างภาชนะ
แหล่งที่มา
1.จาก “สังคมและวัฒนธรรมอีสาน” เอกสารประกอบนิทรรศการถาวร “อีสานนิทัศน์” 2549 หน้า 125-188
ที่พักอาศัยประเภทถาวรจะมีโครงสร้างเป็นไม้จริง (เรือนเครื่องสับ) รูปทรงสี่เหลี่ยมไต้ถุนสูงหลังคาทรงจั่ว เสาเป็นเสากลมหรือเสาเหลี่ยม ฝาเป็นฝาไม้ไผ่สายลายคุปหรือฝาไม้กระดาน(ฝาแอ้มแป้น) ที่พักอาศัยประเภทถาวรนี้อาจจำแนกได้เป็น 3 ประเภท คือ
3.1 เรือนเกย หรือเรือนใหญ่ต่อเกยมีส่วนประกอบสำคัญคือ
3.1.1 เรือนใหญ่ เป็นเรือนขนาด 3 ช่วงเสาหันด้านข้างไปทางทิศตะวันออก ตะวันตก (ปลูกเรือนล่องตะวัน) ตีฝากั้นปิดทึบทั้ง 4 ด้าน ฝาเรือนทางด้านหลังเจาะช่องขนาดกว้าง 1 ศอกยาว 1 ศอก เพื่อให้ลมและแสงสว่างเข้าสู่เรือนเรียกว่า “ป่องเอี้ยม” เจาะประตู 2 หรือ 3 ประตูตามช่วงเสาด้านตรงข้ามแบ่งพื้นที่ใช้ประโยชน์ในตัวเรือนออกเป็น 3 ส่วน คือ
- ห้องเปิง ตั้งอยู่ริมด้านหัวเรือนของเรือนใหญ่เป็นส่วนที่วางหิ้งสักการะบูชาผีบรรพบุรุษ ผีเรือนและหิ้งพระ หรือบางครั้งอาจใช้เป็นห้องนอนของลูกชาย ห้องเปิดอาจเรียกชื่อว่าห้องผีหรือห้องพระก็ได้
- ห้องส้วม จะตั้งอยู่ริมด้านท้ายเรือนของเรือนใหญ่ ตรงข้ามกับห้องเปิดงใช้เป็นห้องนอนของลูกสาวหรือห้องนอนของลูกสายกับลูกเขยหลังแต่งงาน
- ห้องส้วม จะตั้งอยู่ริมด้านท้ายเรือนของเรือนใหญ่ ตรงข้ามกับห้องเปิดงใช้เป็นห้องนอนของลูกสาวหรือห้องนอนของลูกสายกับลูกเขยหลังแต่งงาน
3.1.2 เกย หรือบ้านโล่ง เป็นชานที่มีหลังคาคลุม มีลักษณะเป็นการต่อชานออกมาทางด้านหน้าของเรือน มีหลังคาคลุมพื้นเป็นไม้กระดานด้านข้าง อาจเปิดโล่งหรือกั้นฝาและพื้นเกยจะมีระดับต่ำกวา่ พื้นเรือนใหญ ่ ใช้ประโยชน์เป็นพื้นที่สำหรับกิจกรรมตา่ ง ๆ ในครอบครัว เช่น รับประทานอาหาร รับรองแขกพักผ่อน อิริยาบททำบุญเลี้ยงพระ ทำพิธีสู่ขวัญ ฯลฯ
3.1.3 ชานแดด เป็นการต่อชานออกมาจากทางด้านหน้าเปิดโล่งทั้งด้านบนและด้านข้าง พื้นชานแดดจะลดระดับลงมาจากเกยใช้เป็นสถานที่พักผ่อนยามเย็น เป็นที่รับประทานอาหาร หรือวางผลิตผลทางการเกษตร พื้นที่ส่วนหนึ่งมักสร้างเป็นร้านเพื่อตั้งโอ่งน้ำสำหรับดื่มเรียกว่า “ร้านแอ่งน้ำ”
3.1.4 เรือนไฟ หรือเรือนครัวเป็นส่วนที่ประกอบอาหารเป็นตัวเรือนขนาด 2 ช่วงเสาต่ออกมาจากชานแดดด้านข้างทิศท้ายเรือน ฝาเรือนไฟจะนิยมทำเป็นฝา โปร่งเพื่อระบายอากาศเรือนไฟอาจมีชานมนเป็นที่ตั้งโอ่งน้ำสำหรับประกอบอาหารและล้างภาชนะ
แหล่งที่มา
1.จาก “สังคมและวัฒนธรรมอีสาน” เอกสารประกอบนิทรรศการถาวร “อีสานนิทัศน์” 2549 หน้า 125-188
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น