3.2 เรือนโข่ง ลักษณะของเรือนประเภทนี้จะประกอบด้วยเรือนใหญ่และเรือนโข่ง (เรือนน้อย) ตั้งอยู่ตรงข้าม อาจตั้งชิดติดกันเป็นเรือนจั่วแฝดเชื่อมติดกันด้วยฮางริน (รางน้ำ) ระหว่างหลังคาเรือนทั้งสองหลังหรือตั้งอยู่ห่างกัน แต่เชื่อมด้วยชานก็ได้เรือนโข่งมีขนาดเล็กและหลังคาต่ำกว่าเรือนใหญ่เล็กน้อย มีห้อง 2-3 ห้อง มักกั้นฝาเพียง 3 ด้าน เปิดโล่งด้านที่หันเข้าหาเรือนใหญ่เรือนโข่งมีโครงสร้างเป็นเอกเทศจากเรือนใหญ่ สามารถรื้อไปปลูกใหม่ได้ทันที ใช้ประโยชน์เช่นเดียวกับเกย อาจมีชานแดดหรือเรือนไฟต่อออกทางด้านข้างของเรือน
3.3 เรือนแฝดเรือแฝด จะประกอบด้วยเรือนใหญ่และเรือนอีกหลัง หนึ่งที่เรียก เรือน-แฝด มีรูปร่างประโยชน์ใช้สอยเหมือนกับเรือนโข่งต่างกันตรงที่ลักษณะโครงสร้างของเรือนแฝด คือ ทั้งขื่นและคานจะฝากไว้กับตัวเรือนใหญ่ พื้นเรือนอาจเสมอกันหรือลดระดับจากเรือนใหญ่ก็ได้ ฝาของเรือนแฝดจะทำให้มีขนาดใหญ่หรือลำลองกว่าฝาเรือนใหญ่ ฝาด้านที่หันเข้าหาเรือนใหญ่จะเปิดโล่งเชื่อมกับชาน แดดออกสู่เรือน ไฟเรือนชนิดนี้มักจะเป็นเรือนของผู้มีฐานะทางเศรษฐกิจดี
แหล่งที่มา
1.จาก “สังคมและวัฒนธรรมอีสาน” เอกสารประกอบนิทรรศการถาวร “อีสานนิทัศน์” 2549 หน้า 125-188
3.3 เรือนแฝดเรือแฝด จะประกอบด้วยเรือนใหญ่และเรือนอีกหลัง หนึ่งที่เรียก เรือน-แฝด มีรูปร่างประโยชน์ใช้สอยเหมือนกับเรือนโข่งต่างกันตรงที่ลักษณะโครงสร้างของเรือนแฝด คือ ทั้งขื่นและคานจะฝากไว้กับตัวเรือนใหญ่ พื้นเรือนอาจเสมอกันหรือลดระดับจากเรือนใหญ่ก็ได้ ฝาของเรือนแฝดจะทำให้มีขนาดใหญ่หรือลำลองกว่าฝาเรือนใหญ่ ฝาด้านที่หันเข้าหาเรือนใหญ่จะเปิดโล่งเชื่อมกับชาน แดดออกสู่เรือน ไฟเรือนชนิดนี้มักจะเป็นเรือนของผู้มีฐานะทางเศรษฐกิจดี
แหล่งที่มา
1.จาก “สังคมและวัฒนธรรมอีสาน” เอกสารประกอบนิทรรศการถาวร “อีสานนิทัศน์” 2549 หน้า 125-188
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น